ยุคศิลปะหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
ศิลปะลัทธิเอ็กเพรสชันนิสม์
หมายถึง
การแสดงออกทางศิลปะที่ตัดทอนรูปทรงและสีสันอย่างเสรีที่สุดตามแรงปรารถนา
ศิลปะเอ็กเพรสชันนิสม์ที่สำคัญมี
2 กลุ่ม คือ กลุ่มสะพานและกลุ่มม้าสีน้ำเงิน
กลุ่มสะพาน
- เป็นการรวมตัวของศิลปินวัยหนุ่มอายุ 20-30 ปี
- สะท้อนความสับสน ความอัปลักษณ์ของสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และศาสนา ความสกปรกของสังคม ความเหลวแหลก โสมม หลอกลวง
- ใช้สีที่รุนแรง
- สลายตัว ค.ศ.1913 จากปัญหาวิกฤตสังคมและสงครามโลกครั้งที่ 1
แนวทางการสร้างสรรค์งานของกลุ่มสะพาน
- กลุ่มสะพานสะท้อนเรื่องราวทางศาสนาด้วยความรู้สึกโหดร้าย น่าขยะแขยง น่าเกลียด แสดงความรัก กามารมณ์และความตาย เตือนให้สังคมตระหนักในความไม่แน่นอน
- ภาพส่วนใหญ่เน้นแสดงออกทางจิตวิทยามากกว่าความจริง
กลุ่มม้าสีน้ำเงิน
- เริ่มเคลื่อนไหว ค.ศ.1911 ที่มิวนิค
- แกนนำคือ วาสิลี แคนดินสกี กับ ฟรอนซ์ มาร์ค
- ศิลปินต่างชาติที่เข้าร่วม ได้แก่ ชาวรัสเซียน สวิส อเมริกัน ฯลฯ
- ชื่อลัทธิมาจากความนิยมในการเขียนรูปม้า โดยใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก
- สลายตัว ค.ศ.1914
แนวทางการสร้างสรรค์งานของกลุ่มม้าสีน้ำเงิน
- ผ่อนคลายการกระแทกความรู้สึกของผู้ชมจากความรู้สึกน่าขยะแขยง
- ได้รับอิทธิพลของโกแกงมากกว่าแวนโก๊ะ
- เป็นการแสดงออกทางอารมณ์แบบรุนแรงที่แฝงความสนุกสนาน
- ใช้สี เส้นและการแสดงลีลาคล้ายดนตรี
ผลงานของ Emil Nolde
"Adam and Eve Banished from Paradise" |
ศิลปินลัทธิเอ็กเพรสชันนิสม์
เอ็ดวาร์ด มูงค์ ( Edvard Munch )
- เป็นผู้นำและผู้ให้อิทธิพลแก่ศิลปินกลุ่มเอ็กเพรสชันนิสม์ เกิดวันที่ 12 ธันวาคม 1863 ทางภาคใต้ของนอร์เวย์
- เป็นเด็กขี้โรค เจ็บออดๆแอดๆ
- เรื่องราวของความเจ็บป่วย และความตาย ปรากฏอย่างมากในผลงานของเขา
- ผลงานที่มีชื่อเสียงของมูงค์คือ ภาพเสียงร้องไห้ ( The Cry ) ซึ่งเขียนในปี ค.ศ.1893
ตัวอย่างผลงานของ เอ็ดวาร์ด
"The Scream" |
ศิลปะลัทธิคิวบิสม์
ลัทธิคิวบิสม์ได้แนวคิด และอิทธิพลการถ่ายทอดสิ่งแวดล้อมผ่านการสร้างเป็นรูปทรงที่เรียบง่าย
แทนค่ารูปทรงด้วยแสงสีอันระยิบระยับ ให้บรรยากาศตามช่วงเวลานั้นๆ
นักประวัติศาสตร์ศิลปะและนักวิจารณ์ศิลปะบางคนเรียกผลงานคิวบิสม์ระยะแรกว่า "ศิลปะแบบเซซานน์" หรือ "Cezannesque"
แนวทางการสร้างสรรค์งานของศิลปะลัทธิคิวบิสม์
- ตัดทอน ย่อส่วน เพิ่มเติม และตกแต่งรูปทรงของวัตถุ ถือหลักการเพิ่มส่วนประกอบ เพื่อให้ผลงานสมบูรณ์
- คำนึงถึงรูปทรงเปิดและปิด โดยพิจารณาความสัมพันธ์ของพื้นที่ว่างในส่วนรูปทรงและพื้นผิว
- คำนึงถึงความตื้นลึกด้วยรูปทรง ขนาด การทับซ้อนกัน การบังคับและทำให้โปร่งใสคล้ายภาพเอ็กซเรย์
- เปิดโอกาสให้ผู้ดูมีเสรีภาพในการใช้ปัญญาพินิจพิจารณาด้วยตนเอง
- คำนึงถึงความกลมกลืนของทัศนธาตุ ( เส้น สี แสงเงา รูปร่าง ลักษณะผิว )
- คำนึงถึงส่วนย่อยและส่วนรวมพร้อมกัน เพื่อให้เกิดความกลมกลืน
- นำเอาวัสดุจริงมาปะติดกัน เพื่อให้เกิดความรู้สึกสัมผัสจนเกิดเป็นวิธีการสร้างงานศิลปะที่เรียกว่า ศิลปะตัดแปะ ( Collage) หรือ The art assemblage
ศิลปินลัทธิคิวบิสม์
ปาโบล ปิคัสโซ ( Pablo Picasso )
- เกิดที่สเปน ใน ค.ศ. 1881 บิดาเป็นจิตรกร
- ศึกษาศิลปะครั้งแรกที่เมืองบาร์เซโลนาและเดินทางไปอยู่กรุงปารีส ค.ศ.1900
- เสียชีวิต ค.ศ.1973
- ปิคัสโซเป็นศิลปินหัวก้าวหน้า
- ใช้สีวรรณะเย็นดูเศร้าหมองแบบยุคม้าสีน้ำเงิน สะท้อนชีวิตที่ลำบากของเขา
- ในปี ค.ศ.1905 ปิคัสโซพัฒนาผลงานสู่การใช้สีที่สดใสร้อนแรง
- ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งคือ ภาพเกอนีแค ( Quernica ) ค.ศ.1937 เพื่อแสดงการสนับสนุนรัฐบาลระบอบสาธารณรัฐของสเปน
จอร์จ บราค
- เกิดที่เมืองเลออาร์ฟ ใกล้กรุงปารีส
- ในวงการศิลปะร่วมสมัย บราคเป็นศิลปินสำคัญของลัทธิคิวบิสม์เท่าเทียมปิคัสโซ
- เสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ.1963
- ผลงานชิ้นสำคัญ อาทิ บ้านที่เลสตัค อยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเบอร์น โต๊ะนักดนตรี แท่นสีดำและรูปปั้นหัวม้า อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่กรุงปารีส
ตัวอย่างผลงานของ จอร์จ
Abstractionism |
ศิลปะลัทธินามธรรม
ให้ความสำคัญเรื่องรูปแบบศิลปะหรือปรากฏการณ์ อันเกิดจากการผสานรวมตัวกันของทัศนธาตุ (
เส้น สี แสงเงา รูปร่าง ลักษณะผิว )
ไม่คำนึงถึงเนื้อหาศิลปะ ศิลปะนามธรรมจำแนกออกเป็น
2 กลุ่มใหญ่ คือ ศิลปะนามธรรมแบบโรแมนติก และ ศิลปะนามธรรมแบบคลาสสิค
ศิลปะนามธรรมแบบโรแมนติก
- สร้างงานที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกอย่างเสรี
- ศิลปินอาจมีพื้นฐานทางอารมณ์มาจากความรัก ความเศร้า ความห้าวหาญ ฯลฯ แล้วแสดงออกทันที
ศิลปะนามธรรมแบบคลาสสิค
- สร้างงานที่ผ่านการคิดไตร่ตรอง การวางแผนอย่างมีระบบ มีกฎเกณฑ์
- ใช้รูปทรงเรขาคณิตควบคุม ศิลปินกลุ่มนี้มี มงเดรียน ( Mondrian ) เป็นผู้นำ
- ให้อิทธิพลต่อ Abstract แบบขอบคม ( Op Art ) ในอเมริกา
ศิลปินลัทธินามธรรม
แจคสัน พอลลอค ( Jackson Pollock )
- ได้รับฉายาว่าเป็น จิตรกรแบบ Action Painting
- สร้างงานจิตรกรรมโดยการสาด สลัด ราดหรือเหวี่ยง ลงบนพื้นเฟรมด้วยลีลาท่าทางที่ว่องไว
ตัวอย่างผลงานของ แจคสัน
"She Wolf" |
"Shimmer" |
ศิลปะลัทธิฟิวเจอริสม์
ศิลปินอิตาลี มีความเห็นขัดแย้งกับแนวทางศิลปะเชิงขนบนิยมในประเทศของตนอย่างรุนแรง เริ่มต้นเคลื่อนไหวปี ค.ศ.1909
คำประกาศที่รุนแรงทางศิลปะได้แก่ Burn the Museum , Drain the Canal of Vanice , Let's Kill the Moonlight
แนวทางการสร้างสรรค์ผลงานของลัทธิฟิวเจอริสม์
- มุ่งแสดงความรู้ เคลื่อนไหวจากบริบทของสังคมยุคเครื่องจักรกล
- ต้องการแสดงออกถึงลักษณะของสังคมยุคใหม่
- เห็นความงามของเครื่องจักรที่รวดเร็วและมีพลัง
- ศิลปินมักจะใช้เนื้อหาของงานที่เกี่ยวกับความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน บุคคล สัตว์ หรือวัตถุที่มีการเคลื่อนไหว เช่น วงล้อรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และแสงสี
ศิลปินลัทธิฟิวเจอริสม์
บอคโซนี ( Boccioni
)
- เป็นจิตรกรและประติมากร เกิดที่เมืองเรคจิโอ แคว้นคาลาเบรีย อิตาลี
- ผลงานที่สำคัญคือ ภาพเมืองเติบโต
ตัวอย่างผลงานของ บอคโซนี
"The City Rises" |
จิอาโคโม บอลลา ( Chiacomo Balla )
- จิตรกรชาวอิตาเลียนคนสำคัญ เกิดเมื่อปี ค.ศ.1871 และเสียชีวิตในกรุงโรม ค.ศ.1958
- มีคุณูปการต่อศิลปะลัทธิฟิวเจอริสม์มาก
- มีบทบาทสร้างสรรค์งานแบบฟิวเจอริสม์มากและยาวนานที่สุด ตั้งแต่ ค.ศ.1920
- เป็นครูของบอคโซนีและเซเวรินี
ตัวอย่างผลงานของจิอาโคโม
"Into the Future" |
เว็ปไซต์อ้างอิง
- http://www.designer.co.th/artistic-movement/impressionism.html
- http://203.158.253.5/wbi/Education/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%20(Aesthetics)/unt4/west%20art%20modrn/60imprssnsm.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น